เมื่อสมัยยังเรียนหนังสือได้รับการส่งเสริมให้เรียนดนตรีจากบิดา โดยเข้าเรียนอีเลคโทน เปียโน ดนตรีที่โรงเรียนดนตรี สยามกลการ ปทุมวัน เคยเข้าประกวดอีเลคโทนของสยามกลการและได้ตำแหน่งชนะเลิศของโรงเรียน โดยมี อาจารย์ ชัชพงษ์ เคียงศิริ ที่เป็นผู้วางแผนควบคุมการซ้อมและผลักดันจนได้รับตำแหน่ง ปรึกษากับบิดาขอออกไปเล่นดนตรีข้างนอกบ้าน บิดาตกลงเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์แก่ลูก ไปเล่นดนตรีร้านของเพื่อนบิดาชื่อร้าน Cosmo Cafe’ อยู่สุขุมวิท ซ. 4 ได้รับเงินเดือน 7,500 บาท ( เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว ) ที่นี่จึงเป็นที่มาของการได้เข้าร่วมวง The Innocent

ในคืนหนึ่งได้รับทราบจากคุณอาเจ้าของร้านบอกว่าจะจ้างวงดนตรี The Innocent มาเล่น (เพลงสอบตกกำลังดังมาก) แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะตอนนั้นชอบฟังเพลงฝรั่งมากกว่า พอถึงวันที่วง The Innocent มาเล่น เราก็ทำงานตามปกติ ไม่ได้คิดว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปเพราะวงดนตรีวงนี้เลย เราลงมานั่งดูวงเค้าเล่นก็เออ OK นะเคยเห็นแต่ในทีวี จนเค้าเล่นจบ เราก็กลับขึ้นไปทำงานบนเวทีเหมือปกติ จำได้ว่าขึ้นไปแล้วไปเล่นและร้องเพลง พบรัก ของพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ แล้วก็ทำงานไปเรื่อย ๆ จนเลิกงานกลับบ้าน

เชื่อมั๊ย ! ( เริ่มตื่นเต้น ) วันรุ่งขึ้น ขณะที่เรากำลังเล่นอยู่บนเวที ก็มีผู้ชายตัวเตี้ย ๆ อ้วน ๆ ผมหงอกใส่แว่น ดูเหมืออาแป๊ะขายเฉาก๊วย เข้ามายืนหน้าอีเลคโทนที่เราเล่น แล้วก็เอ่ยปากขึ้นว่า

“ คุณสนใจที่เข้าร่วมวง The Innocent มั๊ย “ ( คิดว่าเราเป็นช้างเผือกแน่ ๆ )เราก็นึกในใจ ตาคนนี้เป็นใครวะ เรานิ่ง ๆ อยู่แป๊ปนึง เค้าก็เลยแนะนำตัวเองว่าเค้าชื่อ พี่ไฮ้ เป็นผู้จัดการวงดนตรี The Innocent เค้าบอกว่า“ เมื่อวานเห็นคุณเล่นและร้องเพลง พี่แจ้ เค้าชอบ “

เราก็ให้เค้ารอแป๊ปนึง พอเราพักก็เลยนั่งคุยกัน เค้าบอกว่า พอดีมือเบส คือ สิทธิศักดิ์ กิจเต่ง เค้าลาออกเพราะว่า วง The Innocent จะเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ มือเบสเค้ามาไม่ได้เลยต้องลาออก แต่วันที่นั่งคุยกันเค้าบอกเราว่าจะให้เราเข้าไปเล่น Keyboard แล้วจะให้ พีรสันติ์ จวบสมัย ไปเล่นเบส เราก็นั่งคิดนิดนึงพอเป็นพิธี แล้วตอบว่า

“ พี่ต้องไปคุยกับคุณพ่อผมครับ “ ( เริ่มเหมือนดาราแล้วต้องคุยกับผู้จัดการส่วนตัว )

แล้วเราก็นัดพี่ไฮ้ให้ไปคุยกับคุณพ่อในวันรุ่งขึ้น สรุปคือคุณพ่อบอกว่าก็ลองดูสิลูก พี่ไฮ้ยิ้มบานแฉ่ง ก็เลยนัดเจอกับสมาชิกวง The Innocent เพื่อให้เราทดสอบฝีมือ

พระเจ้า ! วันที่นัดซ้อมเราตื่นเต้นนะ ชีวิตจะเปลี่ยนแล้ว เราได้เจอสมาชิก The Innocent ตัวเป็น ๆ แบบใกล้ ๆ คำแรกที่เรายังจำได้ พีรสันติ จวบสมัย ถามเราว่า เล่นเบสเป็นมั๊ย เราก็ตอบว่าเราเล่นกีต้าร์ได้ เค้าก็ให้เราลองเล่นเบสดู เราก็นึกในใจ

“ อ้าว ? ไหนบอกให้เข้ามาเล่น Keyboard ไง แล้วจะทำไง ไม่เคยเล่นเบสเลย “ แต่เราเรียนกีต้าร์มาเราก็รู้ว่าโน้ตเบสมันอยู่ตรงไหน ก็มามั่วๆ กันไป พอเริ่มซ้อมกันไปมองหน้ากันไป คงถูกชะตากันมั๊ง เค้า OK ให้เราเป็นมือเบสคนใหม่ (เท่มาก ) เรามารู้ทีหลังว่า พีรสันติ เค้าตกลงรับเราเข้าร่วมวงเพราะเราเล่นเพลง Can’t by me love ของ The Beatles ได้ ซึ่งเค้าเป็นคนร้อง ( เอียงนี่หว่า )

นั่นแหละ คือที่มาของการฝึกหัดเล่นเบส และทีมาของการได้เข้าร่วมวง The Innocent ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดมาก่อนว่าชีวิตเราจะเปลี่ยนไปเป็นคนมีชื่อเสียง มีคนรู้จัก มีแฟนเพลงมากมาย มีโอกาสได้ทำงานทางด้านดนตรี ได้รู้จักกับนักดนตรี และศิลปินดัง ๆ เยอะแยะ รวมถึงผู้ใหญ่เจ้าของค่ายเพลงหลายค่ายที่ให้โอกาสเราได้ทำงานเพลง

มันคือจุดเปลี่ยนของชีวิต นายปื๊ด Innocent เลย